จี้ ปูปรับครม. พณ-ศธ. เหลือทนของแพง-นร.ตีกัน

เอแบคโพล เผยคนส่วนใหญ่เชื่อจะเกิดน้ำท่วมในปีนี้อีก เกินครึ่งไม่เชื่อมั่นแผนรับมือน้ำท่วมของรัฐบาล เห็นควรปรับ ครม.โดยเฉพาะ ก.พาณิชย์ เพราะเดือดร้อนจากปัญหาปากท้อง ตามด้วย ก.ศึกษาฯ จากปัญหาแท็บเล็ต นักเรียนตีกัน แป๊ะเจี๊ยะ ระบุ พ.ร.บ.ปรองดอง ตัวการทำให้รัฐบาลไม่มั่นคง...

เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.2555 ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพล มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ "แผนป้องกันน้ำท่วมปีนี้และการปรับคณะรัฐมนตรีในสายตาประชาชน"  พบว่า ความชัดเจนเรื่องแผนการรับมือน้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นในปีนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 43.9 ระบุชัดเจนค่อนข้างมากถึงมากที่สุด ร้อยละ 56.1 ระบุชัดเจนค่อนข้างน้อยถึงยังไม่ชัดเจนเลย ส่วนการคาดการณ์ของประชาชนต่อการเกิดปัญหาน้ำท่วมในปีนี้ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 70.7 คิดว่าน้ำจะท่วมอีก และเกินครึ่งเพียงเล็กน้อยหรือร้อยละ 53.3 ที่กังวลเกี่ยวกับปัญหาน้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นอีกในปีนี้ แต่ร้อยละ 46.7 ไม่กังวล นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 56.0 เชื่อมั่นค่อนข้างน้อย ถึงไม่เชื่อมั่นว่า รัฐบาลจะสามารถรับมือแก้ปัญหาน้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในปีนี้ ในขณะที่ร้อยละ 44.0 เชื่อมั่นค่อนข้างมากถึงมากที่สุด

ส่วนช่วงเวลาที่เหมาะสมในการปรับคณะรัฐมนตรี พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 56.4 ระบุว่าเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมแล้วในการปรับคณะรัฐมนตรี ในขณะที่ร้อยละ 25.4 ระบุเร็วเกินไป และร้อยละ 18.2 ระบุช้าเกินไป โดยกระทรวงที่ประชาชนระบุควรปรับคณะรัฐมนตรี เรียงลำดับดังนี้ ร้อยละ 29.2 ระบุ กระทรวงพาณิชย์ ร้อยละ 25.4 ระบุกระทรวงศึกษาธิการ ร้อยละ 23.3 ระบุกระทรวงมหาดไทย ร้อยละ 23.1 ระบุกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร้อยละ 17.6 ระบุกระทรวงคมนาคม และรองๆ ลงไป คือ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงกลาโหม และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยกลุ่มประชาชนที่ระบุให้ปรับคณะรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ ให้เหตุผลเพราะปัญหาความเดือดร้อนจากภาระค่าใช้จ่ายราคาสินค้าและปัญหาปากท้องของประชาชน นอกจากนี้ยังมีเรื่องปัญหานโยบายแท็บเล็ต ปัญหายาเสพติดในสถาบันการศึกษา ปัญหาเด็กนักเรียนเยาวชนตีกัน ใช้ความรุนแรง ปัญหาการให้บริการทางเพศของนักเรียนนักศึกษา และปัญหาแป๊ะเจี๊ยะที่ทำให้เด็กนักเรียนต้องออกมาประท้วงด้วยการอดอาหาร เป็นต้น

ขณะที่สาเหตุที่จะทำให้รัฐบาลไม่มั่นคงมากที่สุด พบว่าอันดับแรกหรือร้อยละ 30.5 ระบุประเด็น พ.ร.บ. ปรองดอง รองลงมาคือร้อยละ 20.8 ระบุ การทุจริตคอรัปชัน ร้อยละ 18.2 ระบุพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของนักการเมือง ร้อยละ 14.9 ระบุความเดือดร้อนจากปัญหาปากท้องของประชาชน ร้อยละ 14.0 ระบุประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญ และเพียงร้อยละ 1.6 ที่ระบุเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีตามลำดับ

ข่าว

จี้ ปูปรับครม. พณ-ศธ. เหลือทนของแพง-นร.ตีกัน

ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
จี้ ปูปรับครม. พณ-ศธ. เหลือทนของแพง-นร.ตีกัน