วันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ปู ลั่นไม่ประมาทวิกฤติหนี้ยูโร จ่ออุ้มเอสเอ็มอีลดผลกระทบ

  

ปู ลั่นไม่ประมาทวิกฤติหนี้ยูโร จ่ออุ้มเอสเอ็มอีลดผลกระทบ

ปู ลั่นไม่ประมาทวิกฤติหนี้ยูโร จ่ออุ้มเอสเอ็มอีลดผลกระทบ

"ปู" ยันไม่ประมาทในการรับมือวิกฤติหนี้ยูโร สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เน้นรับมือผลกระทบทางอ้อมช่วยเอสเอ็มอี ชูเปิดตลาดใหม่ส่งออกควบคู่ลงทุน เจาะตลาดท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ ด้าน "โต้ง" มั่นใจความพร้อม รับกระทบแน่แต่ไม่หนัก เพราะนโยบายรัฐบาลปูทางมาดีจากกระตุ้นบริโภคในประเทศ กระจายรายได้...

เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.2555 รายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ช่อง 11 เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 08.04 โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การรับมืิอวิกฤติหนี้ยุโรป ว่า รัฐบาลไม่ประมาทในเรื่องนี้ได้ให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ติดตามสถานการณ์โดยมีการยืนยันว่าสถานะการเงินการคลังยังแข็งแรง ซึ่งจะมีการรายงานให้ที่ประชุมครม.รับทราบ และได้สั่งให้สภาพัฒน์ กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย ติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อรวบรวมนำข้อมูลมารับมืออย่างเต็มที่ เพราะไม่มั่นใจว่ากลุ่มอียูจะได้ข้อสรุปในการแก้วิกฤติหนี้อย่างไร โดยมีการวิเคราะห์ผลกระทบทั้งทางตรงทางอ้อม ซึ่งการส่งออกเป็นผลกระทบทางตรงที่ผ่านมาทางกระทรวงพาณิชย์ได้หารือกับภาคธุรกิจส่งออกเพื่อเตรียมการรับมือแล้ว ส่วนผลกระทบทางอ้อมจะให้ความสำคัญช่วยเหลือนักธุรกิจในกลุ่มเอสเอ็มอีซึ่งอยู่ในห่วงโซ่อุปทาน

ทั้งนี้ยืนยันว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจโดยเน้นการสร้างความแข็งแรงให้กับเศรษฐกิจในประเทศตามนโยบายรัฐบาลที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนสร้างงานในประเทศให้มากขึ้น เพื่อให้ประชาชนมีรายได้ นอกจากนี้การแก้ปัญหาเศรษฐกิจจะต้องลงเป็นรายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอี กลุ่มท่องเที่ยวต้องหานักท่องเที่ยวในหลายกลุ่ม มีการเปิดตลาดประเทศจีนให้มากขึ้นเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว ส่วนการส่งออกมีการหาตลาดใหม่ทั้งจีนและอินเดีย ควบคู่กับการลงทุนเพิ่ม เพื่อไม่ให้เน้นการส่งออกหรือส่งเสริมการค้าลงทุนอย่างใดอย่างหนึ่ง

ขณะที่นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า รัฐบาลเป็นห่วงวิกฤติหนี้ยูโรตั้งแต่เริ่มเกิดปัญหา โดยนายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายในเรื่องนี้เป็นรายเดือนและให้ความสำคัญอย่างใกล้ชิด ซึ่งมีการปรึกษาหารือมาตลอดทั้งนโยบายการเงินการคลัง ส่วนการประเมินและวิเคราะห์สถานการณ์วิกฤติหนี้ยูโรอาจมีการประเมินเป็นรายวันนับแต่นี้ ประกอบกับมีหน่วยงานต่างๆ ในต่างประเทศ ที่วิเคราะห์ข้อมูลอยู่ตลอด ยืนยันว่าที่ผ่านมามีการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด เพื่อซักซ้อมความพร้อมเรื่องการคลังการเงินของประเทศ และครอบคลุมการทำงานร่วมกับหลายกระทรวงทั้งกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการคลัง เพื่อการประสานงาน รวมถึงกระทรวงอื่นๆ เช่น กระทรวงแรงงาน เป็นต้น

ทั้งนี้ ข้อมูลนักลงทุนลงทุนในไทยตั้งแต่ต้นปียังเป็นบวก โอกาสเงินไหลเข้ามากกว่าไหลออก จากภาคเกษตร อุตสาหกรรมเบาและหนัก ธุรกิจบริการท่องเที่ยวซึ่งมีการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และหากไทยได้รับผลกระทบจากวิกฤติหนี้ยูโรก็จะได้รับผลกระทบน้อยกว่าสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะการส่งออก รวมถึงภาคการเงิน  ดังนั้นต้องเตรียมตัวให้พร้อมในการทำงานร่วมกับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง สำหรับเป้าหมายการส่งออกยังเป็นร้อยละ 15 โดยเชื่อว่าสามารถทำได้จากศักยภาพในการเปิดตลาดใหม่ๆ ในการค้าขายกับต่างประเทศในการเพิ่มตลาดในหลายๆ มุม เพื่อศักยภาพในการแข่งขัน ส่วนขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 ได้ก่อให้เกิดผลบวกทำให้เกิดการบริโภคมากขึ้นและดีต่อผู้ค้าขาย

ขณะที่อัตราดอกเบี้ยทั่วไปที่ลดลง และตามที่ กนง.มีมติออกมาก็คงที่ มีการลดภาษีนิติบุคคลเหลือร้อยละ 23 จากร้อยละ 30  ส่วนเรื่องค่าเงินบาทยังเป็นอัตราที่สมดุล รวมถึงการขาดดุลงบประมาณ ซึ่งงบประมาณปี 2556 มีนโยบายขาดดุลซึ่งเหมาะสมที่สุด ทำให้รู้สึกอุ่นใจในการเผชิญความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ส่วนการที่กรีซจะอยู่ในยูโรโซนหรือไม่ มีทั้งข้อดีข้อเสีย และมั่นใจว่าหลายประเทศในยุโรปจะสามารถอุ้มชูดูแลกันได้และแก้ปัญหาให้ดีที่สุด ทำให้มั่นใจในการรับมือสถานการณ์ดังกล่าว โดยยอมรับความจริงว่าได้รับผลกระทบแน่ แต่จากการเตรียมพร้อมจะทำให้ให้ผลกระทบจากหนักมาเป็นเบาลง หรือกระทบต่อไทยแค่ครึ่งหนึ่งของสหรัฐอเมริกา

นอกจากนี้ นโยบายรัฐบาลเน้นการกินดีอยู่ดี มีการเพิ่มรายได้ให้กับผู้มีรายได้น้อย ทดแทนการพึ่งพาการส่งออก ถือเป็นการกระจายรายได้ให้ดีขึ้นทำให้การหมุนเวียนเงินในประเทศดีขึ้น อย่างไรก็ตามก็การลงทุนในโครงการป้องกันน้ำท่วม ทำให้การใช้จ่ายภาครัฐเพิ่มขึ้นส่งผลดีต่อการบริโภคในประเทศที่ดีขึ้น จากการลงทุนของภาครัฐ  ทั้งนี้ วิกฤติหนี้ยูโรยอมรับว่าภาคธนาคารเอกชนได้มีความระมัดระวังมากขึ้น โดยมีการระดมเงินฝาก ระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อซึ่งตนเข้าใจในเรื่องนี้ แต่ไม่อยากให้ภาคเอกชนกังวลในเรื่องสินเชื่อเพราะยังมีธนาคารเฉพาะกิจของรัฐที่พร้อมเข้าไปปล่อยสินเชื่อ ส่วนความกังวลในการใช้เงินของภาครัฐเกรงว่าจะมีปัญหาเหมือนยุโรป ยืนยันว่าระดับหนี้สาธารณะยังต่ำมากไม่เป็นปัญหาแน่นอน


ข่าว

ปู ลั่นไม่ประมาทวิกฤติหนี้ยูโร จ่ออุ้มเอสเอ็มอีลดผลกระทบ

ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
ปู ลั่นไม่ประมาทวิกฤติหนี้ยูโร จ่ออุ้มเอสเอ็มอีลดผลกระทบ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More

 
KKU ปู ลั่นไม่ประมาทวิกฤติหนี้ยูโร จ่ออุ้มเอสเอ็มอีลดผลกระทบ ~ Update News