วันอังคารที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ขุนค้อนเมินคำร้องถอดถอนถึงมือปปช. ลั่นยึดรธน.

  

ขุนค้อนเมินคำร้องถอดถอนถึงมือปปช. ลั่นยึดรธน.

ขุนค้อนเมินคำร้องถอดถอนถึงมือปปช. ลั่นยึดรธน.

"สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์" ประธานสภาผู้แทนราษฎร เมินคำร้องถอดถอนถึงมือ ป.ป.ช. ลั่นยึด รธน. แจงยิบสำนักข่าวอิศรามีเงินงอก 102 ล้าน จากหุ้น บ.ประกัน ยอมรับเคยฝากในนามน้องเขย แต่โอนให้ลูกสาวหมดแล้ว...

เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 2555 ที่รัฐสภา นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องที่นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ และคณะ ยื่นถอดถอนจากตำแหน่ง ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า เป็นเรื่องธรรมดา แต่ต้องถามว่าตนปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นกลางอย่างไร ที่ผ่านมาหากติดตามดูการทำงานได้ยึดตามรัฐธรรมนูญที่เขากล่าวหากับข้อเท็จจริงที่เกิดคนละเรื่องเราอยู่บนหลักความเป็นจริงและรัฐธรรมนูญ ไม่มีอะไรน่าห่วง ตนอาจจะโดนหนักหน่อยช่วงนี้ ซึ่งประเด็นว่าร่าง พ.ร.บ.ปรองดองจะเข้าข่าย กฎหมายว่าด้วยการเงินหรือไม่ ก็ชัดเจนในตัวอยู่แล้ว และผ่านขั้นตอนทุกอย่างตามรัฐธรรมนูญ

เมื่อถามว่าสำนักข่าวอิศราตรวจสอบการแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. พบว่ามีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นจากการถือครองหุ้น จำนวน 102 ล้านบาท นายสมศักดิ์ ตอบว่า สามารถชี้แจงได้ทั้งหมด ซึ่งหุ้นในบริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด หรือบริษัทประกัน ได้มาก่อนการเลือกตั้ง ไม่เกี่ยวกับตำแหน่งประธานสภาฯ แน่นอนการที่ข่าวไปลงแบบแต้มสีใส่ไฟ ไม่ใช่อย่างแน่นอน ส่วนเงิน 100 ล้านบาท เป็นการที่ตนไปทำเอ็มโอยูเพื่อซื้อบริษัทประกันชีวิต จากนั้นก็มาระดมนายทุน ที่อยู่ในวงการมาลงทุนร่วมกัน เมื่อเขามองเห็นว่า ธุรกิจตรงนี้มีอนาคตดีเขาก็ตกลงร่วมทุน ส่วนเงินมูลค่า 102 ล้านบาท เป็นมูลค่าส่วนต่างของหุ้น 32 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือ

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับหุ้นในส่วนดังกล่าวเป็นของ นายศรัณย์ ลิมป์หิรัญรักษ์ น้องเขยของตน และเป็นผู้ประสานในนามตัวแทนหุ้นทั้งหมด ดังนั้น การทำสัญญาอันดับแรกหุ้นทั้งหมดจะอยู่ในส่วนของนายศรัณท์ทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะแต่ของตน แต่รวมของทุกคน ในช่วงเลือกตั้งตนมั่นใจว่าจะได้รีบการเลือกตั้ง และมีความเป็นไปได้ที่จะนั่งในตำแหน่งรัฐมนตรี จึงไม่จำเป็นต้องโอนหุ้นมาเป็นชื่อตนคนอื่นก็โอนไปทั้งหมด แต่ของตนฝากไว้ก่อน แต่พอการเลือกตั้งเสร็จสิ้น เมื่อไม่ได้เป็นรัฐมนตรีแต่ได้ตำแหน่งประธานสภาฯ ซึ่งตามกฎหมาย ประธานสภาฯ สามารถถือครองหุ้นได้ จึงโอนหุ้นกลับมาเป็นของตน ทีนี้เมื่อโอนหุ้นมาก็อาจมีปัญหาตามมาอีก คือบริษัทประกันเขาจะมีการเพิ่มทุนและมีธนาคารออมสิน และ กบข. เข้ามาร่วมทุนด้วย กลัวว่าจะซวยโดยที่ตัวเองไม่รู้เรื่องหากบริษัทไปทำส่วนที่มีผลผูกพันกับราชการและรัฐวิสาหกิจ อย่าง ปตท. หรือการบินไทย อาจส่งผลถึงเราโดยที่ไม่รู้เรื่องพอมีคนทักท้วงเรื่องนี้เลยตัดสินใจโอนหุ้น ไปให้ลูกสาว แล้วลูกเรียนคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อจบมาก็ต้องมาทำงานเรื่องนี้จึงถือโอกาสนี้ยกหุ้นให้ลูกเสียเลย

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ชี้แจงได้โดยเอกสารและพยานบุคคลทุกอย่างโปร่งใส ตรงไปตรงมา ที่สำคัญเปิดเผยด้วย เพราะได้ยื่น ป.ป.ช.หลังการเลือกตั้ง พร้อมแจ้งว่ามีหุ้นอยู่ในส่วนดังกล่าวฝากไว้ในนามของนายศรัณท์หากตนไม่พูด ใครจะรู้ นี่เป็นความตรงไปตรงมา เปิดเผย ถึงแจ้งกับ ป.ป.ช. เมื่อแจ้งแล้วจะมีอะไรอีก เมื่อถามว่าการทำกิจการของ บริษัท พี.เค.มิวสิค จำกัด และบริษัท สไมล์ เฮลธ์ จำกัด ที่มีการโอนกิจการให้บุคคลอื่น นายสมศักดิ์ ตอบว่า ต้องไปดูรายละเอียดเพราะมันนานแล้ว ลืมไปแล้ว กำลังรวบรวมเอกสารอยู่

เมื่อถามว่าได้เลิกกิจการหรือไม่ นายสมศักดิ์ ตอบว่า ยกเลิกกิจการไปนานแล้ว เพียงแต่อาจยังไม่ได้ไปยกเลิกบริษัท เรื่องนานแล้วก็ลืมหุ้นก็ไม่กี่ตังค์เป็นหลักแสน ขนาด 100 ล้าน ยังตรงไปตรงมาเลยที่จริงปิดก็ได้ไม่มีใครรู้ เมื่อถามว่าประเด็นการถือครองหุ้นของ น.ส.จินตนา ถาโคตร และ น.ส.ชุติภรณ์ อังคศิริมงคล จะชี้แจงอย่างไร นายสมศักดิ์ ตอบว่า ทั้ง 2 คน เป็นคณะทำงานที่อยู่ในบริษัทในเครือข่าย มีบริษัทของเครือญาติของหลาน และมีส่วนหนึ่งของตน ตอนหลังยกกิจการไปให้เขา เพราะเป็นงานอดิเรกมากกว่า เมื่อถามย้ำว่าเป็นการโอนหรือซื้อขาย นายสมศักดิ์ ตอบว่า เป็นการทำค่ายเพลง เป็นงานอดิเรก เพราะตนเป็นคนชอบฟังเพลงโดยเฉพาะเพลงเก่าๆ ทำด้วยใจรัก พอเสร็จเริ่มเบื่อก็ยกให้สรุปทุกอย่างตรงไปตรงมาโปร่งใส.


ข่าว

ขุนค้อนเมินคำร้องถอดถอนถึงมือปปช. ลั่นยึดรธน.

ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
ขุนค้อนเมินคำร้องถอดถอนถึงมือปปช. ลั่นยึดรธน.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More

 
KKU ขุนค้อนเมินคำร้องถอดถอนถึงมือปปช. ลั่นยึดรธน. ~ Update News