ม.หอการค้าไทยคาดพม่ารับเออีซี ทำยอดส่งออกโต 2 เท่า

ม.หอการค้าไทย คาด พม่าเปิดประเทศรับเออีซี ทำยอดส่งออกไปพม่าโต 2 เท่าตัว เพิ่มเป็น 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ระบุ สินค้าอุตสาหกรรมไทยรับอานิสงส์มากกว่าเกษตร...

เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.  นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ได้วิเคราะห์โอกาสส่งออกของไทยไปพม่าหลังการรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ปี 58 พบว่า การส่งออกไทยไปพม่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้น 27.1% ต่อปี หรือสร้างรายได้เข้าประเทศเพิ่มขึ้น 2 เท่า มาอยู่ที่ 14,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มากกว่าการส่งออกไปพม่าก่อนเปิดเออีซีที่มีมูลค่าประมาณ 7,010 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ สินค้าอุตสาหกรรมมีแนวโน้มส่งออกสดใส คาดว่า สัดส่วนการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมไทยไปพม่าหลังเปิดเออีซีจะเพิ่มเป็น 74.3% จากปัจจุบันที่ 72.7% และมูลค่าจะเพิ่มขึ้นจากปีละ 5,093 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น 10,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือขยายตัวจากปีละ 19.8% เป็น 27.7%

สำหรับสินค้าอุตสาหกรรมที่ยังส่งออกไปพม่า 10 อันดับแรก ยังคงเป็นกลุ่มเดิม เช่น เครื่องจักร เชื้อเพลิง ยานยนต์ พลาสติก อุปกรณ์ไฟฟ้า ยางและของที่ทำด้วยยาง เคมีภัณฑ์อินทรีย์ เหล็กหรือเหล็กกล้า ผลิตภัณฑ์ทางเภสัชกรรม แต่มีสินค้าดาวเด่นที่จะส่งออกได้เพิ่มขึ้นหลังเปิดเออีซี เช่น ฝ้าย อะลูมิเนียม เซรามิก ซีเมนต์ เฟอร์นิเจอร์ ผ้าทอชนิดพิเศษ ทองแดง เครื่องหนัง และเรือ ซึ่งจะมีสัดส่วนส่งออกเพิ่มขึ้นจาก 4.9% เป็น 6.1% สร้างรายได้เพิ่มขึ้นปีละ 88.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนสินค้าดาวร่วง เช่น รองเท้า สบู่ สารซักล้าง เครื่องแต่งกาย หนังสือและรูปภาพ สัดส่วนลดจาก 3.1% ลดเหลือเป็น 2.4% หรือรายได้หายไปปีละ 54.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ขณะที่สินค้าเกษตรของไทยที่ส่งออกไปพม่า มีแนวโน้มขยายตัวน้อยกว่าสินค้ากลุ่มอุตสาหกรรม เพราะพม่าเปิดประเทศมากขึ้น ทำให้มีการผลิตสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเกษตรเพิ่มมากขึ้น เพราะมีพื้นที่เพาะปลูกและเหลือใช้จำนวนมาก จึงนำเข้าน้อยลง คาดว่าสัดส่วนการส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปพม่าหลังเปิดเออีซี จะลดลงเหลือ 25.7% จากปัจจุบัน 27.3% อย่างไรก็ตาม สินค้าเกษตรที่ยังคงขยายตัวได้ดีอยู่ เช่น เครื่องดื่ม เกลือ กำมะถัน ดิน และหิน เครื่องปรุงรส ผลิตภัณฑ์นม และน้ำมันที่ได้จากสัตว์และพืช ส่วนสินค้าเกษตรดาวเด่นเกษตร เช่น อาหารเลี้ยงสัตว์ ยาสูบ เมล็ดพืช ไม้ประดับ ขณะที่สินค้าดาวร่วง เช่น ผลไม้ เนื้อสัตว์ โกโก้ และกาแฟ โดยสัดส่วนจะลดจาก 1.0% เหลือ 0.4% หรือรายได้หายไปปีละ 5.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ด้านนางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า มหาวิทยาลัยได้เปิดศูนย์ข้อมูล “AEC Strategy Center” เพื่อให้บริการข้อมูลเชิงลึกด้านธุรกิจ การค้าและการลงทุนของอาเซียน ผ่านการเชื่อมโยงข้อมูลจากประเทศต่างๆ ในอาเซียน และหอการค้าไทยแต่ละประเทศ รวมถึงจะมีผลงานศึกษาวิจัยจากหน่วยงานต่างๆ สามารถให้ข้อมูลแก่ผู้สนใจไปลงทุนในอาเซียนได้ และช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้นักธุรกิจในประเทศ หลังไทยเป็นเออีซีแล้ว.

ข่าว

ม.หอการค้าไทยคาดพม่ารับเออีซี ทำยอดส่งออกโต 2 เท่า

ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
ม.หอการค้าไทยคาดพม่ารับเออีซี ทำยอดส่งออกโต 2 เท่า